วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

ชุดผิวสวยหน้าใสสไตล์พอลลีน่าด้วย 2 ผลิตภัณฑ์คุณภาพจาก Paulena CANADA




 พอลลีน่า เคดี มีPhytonutrientsมากที่สุด มีเจียวกูหลาน(หญ้าอมตะ)หรือปัญจขันธ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยต้านอนุมูลอิสระชะลอความแก่ 
 ปกติ 1,200.00 ฿ ลดเหลือ 877.00 ฿


 พอลลีน่า ลิฟท์แอนด์ไวท์ ช่วยชะลอฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายและเสื่อมสภาพลงตามอายุด้วยสารสกัดมากมายที่เพิ่มการทำงานของผิวเพื่อผิวขาวกระจ่างใสเนียนกระชับ 
 ปกติ 1,400.00 ฿ ลดเหลือ 877.00 ฿
 
ชุดผิวสวยหน้าใสสไตล์พอลลีน่าด้วย 2 ผลิตภัณฑ์คุณภาพจาก Paulena CANADA
 1.พอลลีน่า เคดี มีPhytonutrientsมากที่สุด มีเจียวกูหลาน(หญ้าอมตะ)หรือปัญจขันธ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยต้านอนุมูลอิสระชะลอความแก่   ปกติ 1,200.-
 2.พอลลีน่า ลิฟท์แอนด์ไวท์ ช่วยชะลอฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายและเสื่อมสภาพลงตามอายุด้วยสารสกัดมากมายที่เพิ่มการทำงานของผิวเพื่อผิวขาวกระจ่างใสเนียนกระชับ   ปกติ 1,400.- ซื้อทั้งชุดปกติราคา 2,600.- ลดเหลือ 1,650.- ประหยัดถึง 950.-(ได้รับ พอลลีน่า เคดี (S201)1ขวด+ พอลลีน่า ลิฟท์แอนด์ไวท์(S101)1 กล่อง)


เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้คัดสรรพืชหรือสมุนไพรต่าง ๆ ที่มีสาร Phytonutrients มากที่สุดและจัดได้ว่าเป็นสุดยอดสมุนไพร มาเป็นส่วนประกอบที่จะให้ประโยชน์โดยรวม ดังนี้

- ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง- ช่วยเสริมสมรรถภาพทุกด้านให้แข็งแรง
- ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อเชื้อโรคและสารพิษ


- ทำให้กระฉับกระเฉง อดทน และมีสมาธิในการทำงาน
- ทำให้คุณสวยจากภายใน ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใสดูดีอยู่เสมอ แม้กาลเวลาจะล่วงเลยผ่านไป


Phytonutrients & Phytochemicals คืออะไร?


" Phytonutrient " หมายถึงสารประกอบอินทรีย์ที่พืชสังเคราะห์ขึ้นและเก็บสะสมไว้ที่ส่วนต่างๆ แต่ไม่ได้หมายถึง สารอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน หรือเกลือแร่ " Phytonutrient " เป็นสารประกอบที่ให้ผลดีต่อสุขภาพของคนเรา ซึ่งบางทีก็เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "Phytochemical "Phytonutrients ได้แก่สารกลุ่มใดบ้าง ?
  • แคโรทีนอยด์ ( Carotenoids )
  • โปลีฟีนอล : ฟลาโวนอยด์ ( Polyphenols : Flavonoids )
  • อิโนซิทอล ฟอสเฟต : ไฟเตท ( Inositol Phosphates : Phytates )
  • ลิกนิน : ไฟโตเอสโตรเจน ( Lignans : Phytoestrogens )
  • ธโอไซยาเนตและอินโดล ( Isothiocyanates and Indoles )
  • ฟีนอลและไซคลิก คอมปาวน์ด ( Phenols and Cyclic Compounds )
  • ซาโปนิน ( Saponins )
  • ซัลไฟด์และไธโอน ( Sulfides and Thiolds )
  • เทอปีน ( Terpenes )
  • ใยอาหาร ( Dietary fiber )
Phytonutrients มีประโยชน์อย่างไร?
  1. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่
  2. ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  3. ช่วยให้นอนหลับและคลายเครียด
  4. ช่วยป้องกันและรักษาโรคมะเร็ง
  5. ช่วยซ่อมแซม DNA ที่ถูกทำลายจากสารพิษ บุหรี่ แอลกอฮอล์
  6. รักษาสมดุลย์ของโฮร์โมนและเอ็นไซม์
  7. ช่วยปกป้องหัวใจและระบบไหลเวียนของโลหิต
  8. ช่วยรักษาความยืดหยุ่นและความชุุ่มชื้นของผิวพรรณ
  9. ช่วยเพิ่มสมรรถาพทางร่างกายและทางเพศ
Phytonutrients ร่างกายได้รับเพียงพอหรือไม่? 
ร่างกายจะได้รับ จากการบริโภคอาหารพวกผักและผลไม้ ซึ่งควรต้องมีการค้นค้วาเพิ่มเติมว่าผักหรือผลไม้ชนิดใดมีสารสังเคราะห์ใดเป็นพิเศษและต้องใส่ใจบริโภคเป็นประจำอย่างต่อเนื่องและมีปริมาณมากพอจึงจะส่งผลดีต่อสุขภาพยิ่งๆขึ้นไป แต่ในยุคที่ต้องแข่งกับเวลานี้พบว่าเราไม่สามารถได้รับสาร Phytonutrients อย่างเพียงพอจากอาหารปกติประจำวัของเราเพียงอย่างเดียว
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคน นอกเหนือจากการรับประทานอาหารตามปกติของตนเอง 


พอลลีน่า เคดี
ส่วนประกอบที่สำคัญ
ปัญจขันธ์ ( Gynostemma Pentaphyllum)
ชื่อภาษาอังกฤษ Miracle grass (หญ้ามหัศจรรย์) ชื่อจีน คือ เจียวกูหลานหรือเซียนเฉ่า ( หญ้าอมตะ) ในปัญจขันธ์มีสาร จิปพีโนไซด์ (Gypenoside) มากกว่า 80 ชนิด บางชนิดเหมือนที่พบในโสม จึงมีสรรพคุณคล้ายโสมดังนี้
  • มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ทำให้กระชุ่มกระชวยและฟื้นฟูความเป็นหนุ่มสาว
  • ป้องกันผิวไม่ให้ถูกทำลายจากรังสี UV
  • Adaptogenic herb มีฤทธิ์แรงมาก
  • ช่วยลดความดันเลือด
  • ลดไตรกลีเซอร์ และคลอเรสเตอรอลชนิดเลว แต่เพิ่มชนิดดี
  • ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้สะดวก จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
  • ยับยั้งการเกาะตัวกันของเกร็ดเลือด ป้องกันและรักษาหลอดเลือดแข็งตัว
  • ช่วยลดน้ำหนัก เร่งการเผาผลาญอาหาร ขัดขวางการเปลี่ยนน้ำตาลไปเป็นไขมัน
  • เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ โดยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณอัณฑะ
  • ป้องกันตับจากสารพิษ และต้านการอักเสบในโรคกระเพาะ หลอดลมอักเสบ
  • เพิ่มการหลั่งอินซูลินทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ( สารซาโปนิน ชื่อฟาโนไซด์ที่มีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งซูลิน)
  • เสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ช่วยให้ผู้ป่วยที่ทำเคมีบำบัดรู้สึกดีขึ้น
  • ช่วยให้นอนหลับคลายความวิตกกังวล แต่กระตุ้นผู้ที่ซึมเศร้าให้สดชื่นขึ้น

โสมเกาหลี ( โสมคน ) (Panax ginseng)
"โสมเกาหลี" จัดเป็นสุดยอดสมุนไพร สาร ginsenosides มีฤทธิ์เป็นAdaptogen คือทำให้ร่างกายสามารถทนต่อแรงกดดันจากสภาวะภายนอกได้ดีขึ้น โสมมีสรรพคุณดังนี้
  • บำรุงร่างกายและอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ ไต หัวใจ ม้าม ปอด ทำให้ร่างกายแข็งแรงเสมือนมีเกราะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ
  • บำรุงโลหิต ปรับความดันเลือด และระดับน้ำตาลในเลือดให้ปกติ
  • บำรุงประสาท เพิ่มสมาธิ ความจำ และความสามารถในการเรียนรู้
  • บรรเทาอาการเครียด ซึมเศร้า นอนไม่หลับ เป็นการสกัดกั้นโรคหรือความเจ็บป่วยที่มีสาเหตุจากความเครียด
  • ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศทั้งในหญิงและชาย
  • ช่วยบรรเทาอาการข้างเคียงจากเคมีบำบัดและรังสีบำบัด
  • ช่วยชะลอความแก่เป็นอายุวัฒนะ

แปะเจียก (Paeonia Iactitlora) มีสารชื่อ Paeoniflorin ซึ่งมีสรรพคุณ
  • แก้ปวด ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ จึงใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่นๆเพื่อบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ปวดท้อง ปวดศรีษะ
  • ช่วยบำรุงโลหิต ลดความดัน ฟอกเลือด
  • ห้ามเลือดจากบาดแผล
  • แก้ประจำเดือนมามากเกินไป


ตี้อึ้ง/เส็กตี่(Rehmannia glutinosa)
รากของตีอึ้งเมื่อผ่านกรรมวิธีการนึ่งหรือตากแดด จะมีสีดำที่เรียกว่า " เส็กตี่ " สารสำคัญ rehmaglutin มีสรรพคุณ คือ
  • บำรุงไต
  • บำรุงไขกระดูก
  • บำรุงทางเพศ
  • ช่วยให้ผมดำสลวย
  • ใช้บำบัดโรคประสาทอ่อน ฝันเปียก อาการหลั่งเร็วในผู้ชาย
  • อาการอ่อนล้า โลหิตจาง วิงเวียน
  • หอบ หายใจลำบาก
  • สตรีมีประจำเดือนมาไม่ตรงกำหนด เลือดประจำเดือนมีสีจาง ประจำเดือนมาไม่ปกติ

ปัคคี้ (Astragalus membranaceus)
ปัคคี้หรืออึ้งคี้ มีสารสำคัญคือ Astragaloside มีสรรพคุณคือ
  • บำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต บำรุงหัวใจ
  • บำรุงปอดและม้าม
  • เสริมภูมิต้านทานโรค
  • ลดความดัน ขับปัสสาวะ แก้อาการบวมน้ำ
  • ลดอาการแก้อาการเหงื่อออกมาก
  • ช่วยทำให้แผล ฝี หนอง ที่ผิวหนังหายเร็วขึ้น
  • บรรเทาอาการข้างเคียงจากเคมีและรังสีบำบัด
ชะเอม (Glycyrrhiza glabra) รากชะเอมมีรสหวาน มีสรรพคุณ
  • แก้ไอ ขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ แก้น้ำลายเหนียว
  • บำรุงปอด
  • แก้อาการเกร็ง
  • แก้ปวดท้อง
  • ช่วยสงบประสาท ลดความเครียด
  • รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
  • ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมน
  • ช่วยตับกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย

เก๋ากี้ (Lcium barbarum) มีสรรพคุณ
  • บำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต
  • บำรุงสายตา
  • เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ
  • ลดน้ำตาลในเลือด
  • ปรับความดัน ลดไขมัน
  • กล่อมประสาทให้หลับสบาย
  • ใช้รักษาอาการสายตาเสื่อม ตาบอดกลางคืน
  • ปวดหลัง ปวดเอว
  • ใช้รักษาโรคเบาหวานได้ผลดีมาก
  • มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่
ตังเซียม (Codonopsis pilosula) รากตังเซียม มีสรรพคุณ

  • ช่วยปรับการทำงานของกระเพาะอาหาร ปอดและม้ามให้ดีขึ้น
  • ช่วยบำรุงเลือดลม ลดความดันโลหิต
  • เพิ่มภูมิคุ้มกัน
  • ใช้ในผู้ที่มีอาการหายใจลำบาก หน้าซีด กลัวลม
  • มีเหงื่อออกมากอันเกิดจากสมรรถภาพการทำงานของปอดเสื่อมลง
  • นอกจากนี้ยังเป็นสมุนไพรที่ปลอดภัยจึงใช้บำรุงผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรได้ดี

พุทราจีน (Zizyphus jujube) เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณ

  • ทำให้นอนหลับง่าย
  • ช่วยขับปัสสาวะ
  • ช่วยเสริมฤทธิ์ให้กับสมุนไพรตัวอื่นๆ
  • ทำหน้าที่ประสานฤทธิ์ของสมุนไพรในตำรับให้เข้ากัน

เห็ดหลินจือ (Ganoderma lucidum)
เห็ดหลินจือ เป็นยาอายุวัฒนะเชื่อว่าทำให้ผู้บริโภคมีอายุยืนยาว มีสรรพคุณ
  • บำรุงร่างกาย
  • เพิ่มภูมิคุ้มกัน
  • ลดน้ำตาลในเลือด
  • ใช้รักษาโรคภูมิแพ้ โรคความดัน โรคกระเพาะ โรคเส้นเลือดอุดตัน โรคหลอดลม
  • ช่วยลดคลอเรสเตอรอล
  • ต่อต้านการเจริญเติบโตของเนื้องอก

โต่วต๋ง (Eucommia ulmoides) เปลือกโต่วต๋ง มีสรรพคุณ
  • เสริมสร้างร่างกาย
  • บำรุงตับ บำรุงไต เส้นเอ็น บำรุงครรภ์
  • ลดความดันโลหิต
  • ลดคลอเรสเตอรอล
  • แก้ปวด เมื่อยเอวและข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย
  • เพิ่มสมรรถภาพทางเพศจึงใช้บำบัดอาการกำลังวังชาถดถอย ฝันเปียก
  • ลดความเสี่ยงในการแท้งบุตร ได้ดีมาก

ซิซานดร้า (Schisandra chinensis)
ผลซิซานดร้าอุดมไปด้วยสารลิกนิน ชื่อ Schisandrins มีสรรพคุณ
  • บำรุงธาตุทั้ง 5
  • บำรุงตับ ไต และปอด
  • ช่วยเพิ่มสมรรถภาพและความรู้สึกทางเพศทั้งในหญิงและชาย
  • เพิ่มการขับน้ำหล่อเลี้ยงในช่องคลอด
  • ช่วยตับกำจัดสารพิษ
  • เพิ่มสมาธิและความจำ
  • ช่วยปกป้องผิวจากลมและแสงแด
  • ช่วยฟอกเลือดให้สะอาด
การบริโภคซิซานดร้าอย่างต่อเนื่องจะทำให้ผิวสวย ขาวเรียบเนียน ดูอ่อนกว่าวัย


เมล็ดลูกซัด (Trigonella foenum-graecum) มีสรรพคุณ
  • ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  • ช่วยลดคลอเรสเตอรอล
  • บำรุงไต บำรุงทางเพศ
  • แก้ปวดหลัง ปวดเอว
  • แก้อาการแน่นหน้าอก แน่นท้อง
กระชายดำ (Kaempferia parviflora) มีสรรพคุณ คือ
  • บำรุงกำลัง
  • บำรุงฮอร์โมนเพศชาย เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
  • แก้ปวดเมื่อย แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม
  • แก้ตกขาว แก้สตรีประจำเดือนมาไม่ปกติ
น้ำผึ้ง (Honey)
น้ำผึ้ง ประกอบด้วย กลูโคส ฟรุคโตส ซูโคส วิตามินบี แร่ธาต โปรตีน เอนไซม์ เป็นต้น
  • นำผึ้งเป็นยาบำรุงกำลัง
  • ช่วยย่อย ช่วยหล่อลื่นลำไส้
  • ขับปัสสาวะ
  • ใช้แต่งรสหวาน
ปริมาณสุทธิ 510 ml
ทะเบียน อย. 73-1-32023-1-0022
ขนาดรับประทาน รับประทานครั้งละ 15-30 ml วันละ 1-2 ครั้ง ก่อนอาหาร
วิธีรับประทาน อมไว้ในปาก-ใต้ลิ้นก่อนกลืน เพราะจะช่วยในการดูดซึมไปเลี้ยงสมองได้ดี
คำเตือน
1. เด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีที่ให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน

2. ไม่ใช่อาหารสำหรับควบคุมน้ำหนัก
สีสันอาหาร...สีสันสุขภาพ ผักและผลไม้ที่มีสีที่แตกต่างกัน ย่อมมีสารสังเคราะห์ ( Phytonutrients หรือ Phytochemicals ) ที่ไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีและเป็นการป้องกันโรคร้ายที่เกิดจากการกินอาหารที่ไม่ถูกต้อง ( โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดัน ) เราจึงควรกินผักและผลไม้ให้หลากสีหลากชนิด ครบทั้ง 5 สีดังนี้1. สีน้ำเงิน สีม่วง และสีแดง มีสารแอนโธไซยานิน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลดอัตราเสี่ยงของโรคหัวใจ เส้นเลือดอุดตันและชะลอความเสื่อมของดวงตา มีมากในกระหล่ำปลีสีม่วง ชมพู่แดง ถั่วแดง ถั่วดำ มะเขือม่วง องุ่นแดง แอปเปิ้ลแดง ลูกพรุน ลูกเกด บลูเบอรี่ สตรอเบอรี่ ฯลฯ

2. สีเขียว มีสารอาหารสำคัญอยู่หลายชนิด ได้แก่
คลอโรฟิลล์ ช่วยกระตุ้นเม็ดเลือดแดง กำจัดสารพิษ ป้องกันตับ ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบตัน เส้นเลือดขอด เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดอาการภูมิแพ้ ป้องกันเซลล์เสื่อมก่อนวัย มีอยู่มากในสาหร่ายสไปรูลิน่า อัลฟัลฟ่า ผักโขม และผักใบเขียวอื่นๆ
เบต้าแคโรทีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยดูแลรักษาผิวพรรณ ลดความเสี่ยงของมะเร็ง เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงรักษาตา มีมากใน บร็อกโคลี่ ผักบุ้ง คะน้า ตำลึง หน่อไม้ฝรั่ง ฯลฯ
ลูทีนและซีแซนทีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก และโรคศูนย์จอเสื่อมในผู้สูงอายุ มีอยู่มากในผักคะน้า ผักบุ้ง ผักโขม ผักปวยเล้ง แตงกวาทั้งเปลือก ถั่วแขก ถั่วลันเตา ฯลฯ



อินโดล ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับให้สร้างเอนไซม์ออกมาต้านเซลล์มะเร็ง และเร่งการกำจัดฮอร์โมนเอสโตรเจนส่วนเกินจึงป้องกันการเกิดมะเร็งที่มดลูกและเต้านม อินโดลมีมากในผักวงศ์กะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บล็อกโคลี คะน้า หัวไชเท้า ฯลฯ
ฟลาโวนอยด์ ช่วยป้องกันไม่ให้คลอเรสเตอรอลจับกับผนังหลอดเลือด พบได้มากในไวน์แดง ชาเขียว หัวหอม ถั่วเหลือง ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอย่างส้ม มะนาว ฯลฯ
3. สีขาว สีชา และน้ำตาล มีสารประกอบสำคัญหลายชนิด ได้แก่
อัลลิซิน มีฤทธิ์ต้านการเกิดเนื้องอกและมะเร็ง มีมากในกระเทียม ต้นกระเทียม หัวหอม กุ่ยช่าย ขึ้นฉ่าย เซเลอรี่ เห็ด ฯลฯ
ฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง มีมากใน หัวหอมใหญ่ แอปเปิ้ล ต้นกระเทียม ฝรั่ง ชาขาว ชาเขียว ฯลฯ
ไอโซฟลาโวน มีฤทธิ์เป็นไฟโตเอสโตรเจน ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งที่เต้านม ลำไส้ใหญ่ และที่ต่อมลูกหมาก มีมากใน ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
แซนโทน มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดอาการปวดข้อเข่า ต้านเชื้อโรคหลายชนิด ช่วยรักษาระดับน้ำตาลและระบบภูมิคุ้มกัน พบมากในเนื้อสีขาวและเปลือกของผลมังคุด
เพ็กติน เป็นเส้นใยที่ละลายน้ำได้ สามารถจับกับน้ำตาลและค่อยๆปล่อยออกสู่กระแสเลือดอย่างช้าๆทำให้รู้สึกอิ่มหลังกิน ช่วยลดความอยากอาหาร จึงใช้เป็นอาหารควบคุมน้ำหนัก มีมากใน แอปเปิ้ล ฝรั่ง แก้วมังกร และผลไม้อื่นๆที่ทำแยมได้


นอกจากนี้ยังมีผลไม้สีขาว สีน้ำตาลอีกหลายชนิดที่ควรกินสลับสับเปลี่ยนไป ได้แก่ กล้วย สาลี่ พุทรา ลางสาด ลองกอง เงาะ ลิ้นจี่ ละมุด ลำไย ฯลฯ
4. สีเหลือง สีส้ม มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น วิตามินซี แคโรทีนอยด์ และฟลาโวนอยด์ ซึ่งจะช่วยรักษาสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด บำรุงสายตา ทำให้มองเห็นในที่มืดได้ดี ลดความเสี่ยงการเป็นโรคต้อกระจกและโรคมะเร็ง มีมากใน แครอท มะละกอ ฟักทอง มะม่วงสุก ส้ม ขนุน แคนตาลูป เสาวรส ขมิ้นชัน ฯลฯ
5. สีแดง มี สารไลโคปีน ซึ่งเป็นกลุ่มแคโรทีนอยด์ ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ โดยเฉพาะเซลล์ผิวหนัง และช่วยลดไขมันในเลือด มีมากใน มะเขือเทศ กระเจี๊ยบแดง มะละกอ บีทรูท สตรอเบอรี่ เชอรี่ ฯลฯ


การกินผักผลไม้เป็นประจำทุกวันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่น่าเสียดายที่สาร phytonutrients เหล่านี้มักจะเหลือน้อยลงเมื่อผักผลไม้ถูกเก็บไว้นานและความร้อนจากการปรุงอาหารก็ทำให้สารที่แสนจะมีประโยชน์เหล่านี้สลายหายไปด้วยเหตุนี้เองผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายๆ ชนิดจึงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคโดยเฉพาะชาวอเมริกันและชาวยุโรปที่ตื่นตัวกับเรื่องการดูแลสุขภาพเป็นอย่างมาก

Paulena Lift+Vite ( s101 )ส่วนประกอบสำคัญ :
คอลลาเจน แอล- กลูตาไธโอน วิตามินซี สารสกัดจากโรสแมรี่ ผลทับทิม เปลือกสนฝรั่งเศส เมล็ดองุ่น โคเอ็นไซ์ม์คิวเท็น
ปริมาณสุทธิ 30 แคปซูล
ทะเบียน อย. 73-1-32023-1-0019
ขนาดรับประทาน วันละ 1 เม็ด ก่อนนอน (ถ้าทานต่อเนื่องจะทำให้ผิวพรรณกระจ่างใสขึ้นและคงสภาพผิว)


คำเตือน เด็ก สตรีมีครรภ์ ให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน



ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พอลลีน่า ลิฟท์ แอนด์ ไวท์ Paulena Liff & vite
การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มุ่งเน้นเพื่อการดูแลผิวแทนคุณ เป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยและได้ผลดี ด้วยหลักการ Synergist การผสมผสานที่ลงตัว ของสารสกัดจากธรรมชาติที่ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติในการช่วยชะลอและฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย และเสื่อมสภาพลงตามอายุ ด้วยสารสกัดมากมายที่ล้วนแล้วแต่ส่งเสริมการทำงานของผิวพรรณ โดยรวมเพื่อการเผยผิวขาวกระจ่างใส เนียนกระชับไร้ริ้วรอย
นี่คือเหตุผลและเป็นอีกทางเลือกที่เราจะให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นผู้ช่วยของเรา

สาเหตุที่ทำให้ผิวหนังเสื่อมสภาพ แบ่งเป็น 2 ประการใหญ่ๆ คือ


1. ความเสื่อมของผิวหนังตามวัย
2. ความเสื่อมของผิวหนังจากสิ่งแวดล้อม
ความเสื่อมของผิวหนังตามวัย
เมื่อคนเรามีอายุเพิ่มมากขึ้นร่างกายทุกส่วนย่อมเสื่อมสภาพลงแต่ความเสื่อมสภาพตามวัยของผิวหนังเป็นความเสื่อมที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนดังนี้
• ผิวหนังชั้นนอก ( หนังกำพร้า ) เป็นผิวหนังที่อยู่ชั้นนอกสุด ประกอบด้วย เซลล์ผิวที่ตายแล้ว( ขี้ไคล ) ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคภายนอกเข้าสู่ร่างกาย รักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังและรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้คงที่เมื่ออายุมากขึ้นชั้นหนังกำพร้าจะเริ่มบางลง ทำให้ผิวหยาบกระด้างเกิดแผลถลอกและติดเชื้อโรคได้ง่าย นอกจากนี้เวลาที่ผิวโดนแสงแดดจะไปกระตุ้นเซลล์เมลาโนไซด์ที่อยู่ในผิวหนังชั้นนอกให้ผลิตเม็ดสีเมลานินซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้า
• ผิวหนังชั้นใน ( หนังแท้ ) ชั้นนี้อยู่ใต้หนังกำพร้า ประกอบด้วย เส้นเลือด เส้นประสาท ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน คอลาเจน อิลาสติน เมื่อมีอายุมากขึ้นทั้งต่อมไขมัน ต่อมเหงื่อ จะลดจำนวนและขนาดลง ทำให้เหงื่อและไขมันออกน้อยลง ผิวจึงแห้งมากขึ้น นอกจากนี้เส้นผม เส้นขนก็ลดขนาดและจำนวนลง ทำให้เส้นผมบางลง เล็บก็เปราะแตกหักง่าย การสร้างคอลาเจนและอิลาสตินก็ลดลงด้วย ทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอย เหี่ยวย่นและหย่อนยาน


• ชั้นไขมัน ชั้นนี้ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ช่วยลดแรงกระทบกระแทกแก่ร่างกาย เมื่อมีอายุมากขึ้นจะมีการสะสมของไขมันส่วนเกินที่บริเวณหน้าท้อง เอว สะโพก ต้นขา ใต้คางและต้นแขนแต่ชั้นไขมันที่บริเวณส้นเท้าจะบางลง ทำให้ส้นเท้าแตกได้ง่ายขึ้น
ความเสื่อมของชั้นผิวหนังจากสิ่งแวดล้อม เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดความเสื่อมของผิวหนังดังนี้

• แสงแดด เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้แก่ก่อนวัยอันควร เช่นทำให้เป็นกระ ฝ้า จุดด่างดำ รอยย่น มะเร็งผิวหนัง จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงและหาวิธีป้องกันแสงแดด เช่น ทาครีมกันแดด สวมหมวก สวมแว่นตาหรือกางร่ม
• สารเคมีควันพิษ ทำให้ผิวหนังสกปรก รูขุมขนอุดตัน สบู่ที่แรงเกินไปทำให้ผิวเสียได้
• อากาศอุณหภูมิ อากาศที่ร้อนอาจทำให้ผิวมันเป็นสิวได้ง่าย ส่วนอากาศแห้งและเย็นทำให้ผิวหนังแห้งและหยาบ เป็นผื่นคัน ลอกเป็นขุย ปากแห้งแตก
• ความเครียด ผิวก็เป็นอวัยวะแรกที่แสดงสัญญาณความเครียด ผิวจะดูหมองคล้ำและทำให้เกิดรอยย่นตรงหัวคิ้ว หน้าผาก และรอบดวงตา
• การอดนอน ทำให้ผิวหนังแห้ง เกิดริ้วรอย และรอยคล้ำใต้ตา การนอนอย่างเพียงพอเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะขณะที่นอนหลับ ร่างกายและผิวของเราจะมีการซ่อมแซมและกลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้
• การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ก่อให้เกิดผลในด้านลบกับผิวหลายประการ เนื่องจากสารนิโคตินในบุหรี่ทำให้หลอดเลือดตีบ ขวางกั้นการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงผิวชั้นนอก การสูบบุหรี่ยังทำลายคอลาเจนที่มีหน้าที่รักษาความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิว อีกทั้งทำให้ระบบการรักษาบาดแผลช้าลงด้วย


ส่วนระกอบสำคัญ
• คอลาเจน 200 มก.
• แอล-กลูตาไธโอน 70 มก.
• วิตามิน ซี 25 มก.
• สารสกัดจากโรสแมรี่ 20 มก.
• สารสกัดจากผลทับทิม 20 มก.
• สารสกัดจากเปลือกสน 20 มก.
• สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 20 มก.
• โคเอ็นไซม์ คิวเทน 10 มก.
• กรดอัลฟาไลโปอิค 10 มก.
• ซิงค์คีเลต 16 มก.
• ซิลิเนียม คีเลต 7 มก.
• คอปเปอร์ คีเลต 3.5 มก.
• แมงกานีส คีเลต 0.55 มก.


คอลาเจน( Collagen ) คืออาหารเสริมโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ซึ่งมีส่วนผสมของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวเมื่อร่างกายได้รับสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสม จะทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง ทนต่อสภาพถูกทำลายและยับยั้งการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น วิตามินซี เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการผลิตและรักษาเนื้อเยื่อคอลาเจนการเพิ่มวิตามินซีในอาหารเสริมนี้ จะช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้โดย วิตามินซีจะเป็นตัวกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกายหรือสิ่งสกปรกที่เกิดจากสภาพแวดล้อม สารเคมี อากาศและควันบุหรี่ การรับประทานอาหารเสริมคอลาเจนจะช่วยเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นในการสร้างเนื้อเยื่อและช่วยชะลอความแก่เนื่องจากอาหารเสริมคอลาเจนแตกตัวและถูกดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว อาหารเสริมคอลาเจนเหมาะสำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่ต้องการรักษาความอ่อนเยาว์และบำรุงผิวพรรณที่ถูกทำลายหรือเสื่อมสภาพลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอายุ


แอล-กลูตาไธโอน( L-Glutathione )
ร่วมกับเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศส และกรดอัลฟาไลโปอิก ( Alpha Lipoic Acid ) ซึ่งจะช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินที่ผิวมากผิดปกติ ช่วยลดความหมองคล้ำของผิวและยังสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วยคุณค่าสารอาหารธรรมชาติทั้ง 3 นี้ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น ลดเลือนริ้วรอยหมองคล้ำและจุดด่างดำได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงผิวทั่วเรือนร่าง เช่นใต้วงแขน บริเวณขอบชั้นใน( Bikini line )ริมฝีปาก และบริเวณหัวนมให้ขาวอมชมพู
วิตามินซี
• กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวและแอนตี้บอดี้ เพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคหวัด ภูมิแพ้ ติดเชื้อง่าย เป็นยาปฏิชีวนะจากธรรมชาติ ตลอดจนต้านทานฤทธิ์ของสารพิษในสภาพแวดล้อม
• ต่อต้านอนุมูลอิสระ (แอนตี้ออกซิแดนท์) สาเหตุการเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆ เช่น ต้อกระจก หลอดเลือดอุดตัน กรดไขข้อ ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ รวมถึงมะเร็ง
• ช่วยให้ผิวพรรณยืดหยุ่นกระชับ บำรุงรักษาเหงือก ฟันและกระดูกให้แข็งแรง
• ช่วยทำให้อสุจิแข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดี
• เพิ่มการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายและเสริมสร้างคอลาเจนในกระดูก


*เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีได้เองจึงจำเป็นต้องบริโภคเข้าไปเท่านั้น**
สารสกัดจากโรสแมรี่
โรสแมรี่( Rosemary ) เป็นพืชสมุนไพรในแถบอเมริกาเหนือที่ให้สารสกัดจากธรรมชาติ ชื่อว่ากรดโรสมารินิค( Rosemarinic Acid ) และพืชผักธรรมชาติ ได้แก่ ผงขมิ้น บลอคโคลี่ กะหล่ำ แครอท มะเขือเทศ ใบเสจ กานพลู ให้ผลในการทำลายฤทธิ์ของอนุมูลอิสระและต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นในร่างกาย ซึ่งเป็นตัวทำลายเซลล์ในร่างกายและเกิดขึ้นในร่างกายตลอดเวลาจากสิ่งแวดล้อมภายนอก และระบบการทำงานของร่างกายทำให้ยับยั้งความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆในร่างกาย เช่น ผิวพรรณที่เหี่ยวย่นก่อนวัย ความจำเสื่อม สมรรถภาพเสื่อม หลอดเลือดหัวใจแข็งตัว และยับยั้งความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพในระยะยา
สารสกัดจากผลทับทิม ช่วยสมานผิว ลดการอักเสบ ช่วยปรับปรุงระบบการฟอกและไหลเวียนของเลือด ทำให้มีเลือดฝาด ช่วยลดการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือดและยังช่วยบำรุงตับด้วย
สารสกัดจากเปลือกสน( Pine Bark Extract ) ที่พบในฝรั่งเศส
เป็นแหล่งของสาร Oligomeric Proanthrocycanidins ( OPC ) จึงช่วยเสริมการทำงานของสารสกัดจากเมล็ดองุ่นในการต้านอนุมูลอิสระและปกป้องเซลล์ผิว โดยลดปฏิกิริยาของผิวหนังเมื่อถูกแสงแดด ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ลดขนาดและความเข้มของฝ้า กระ และช่วยปรับสภาพผิวให้กลับขาวใสขึ้น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงที่วงการแพทย์ทั่วโลกยอมรับ
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น( Grape Seed Extract )สารสำคัญ Oligomeric Proanthrocycanidins ( OPC )ในเมล็ดองุ่นจะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและปกป้องหลอดเลือดฝอยที่ผิวหนัง จากการทำลายของอนุมูลอิสระ และยังสามารถช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสลายเส้นใยคอลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นเส้นใยที่มีความสำคัญต่อสุขภาพและความยืดหยุ่นของผิว ทำให้เนื้อเยื่อโครงสร้างผิวแข็งแรง ช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้สารอาหารต่างๆไปหล่อเลี้ยงเซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว คืนความอ่อนเยาว์ให้เซลล์ผิวทั่วเรือนร่าง ลดการเกิดริ้วรอย ลดความหยาบกร้าน หมองคล้ำ ทำให้ผิวเรียบเนียน
โคเอนไซม์คิวเทน( Coenzyme Q 10 )


เป็นสารที่จำเป็นสำหรับกระบวนการสร้างพลังงานให้แก่เซลล์ต่างๆ รวมทั้งเซลล์ผิวด้วย และยังช่วยส่งเสริมให้เซลล์ผิวสร้าง Glycosaminoglycans ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของผิวและโปรตีนที่จำเป็นต่อการสร้างคอลาเจน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นแข็งแรง และอุ้มน้ำได้มากขึ้นส่งผลให้ผิวมีความชุ่มชื้นดูมีชีวิตชีวาสดใส ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์นอกจากนี้( Coenzyme Q 10 )ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่จะช่วยปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้โดนทำลายโดยอนุมูลอิสระ
กรดอัลฟา-ไลโปอิก เป็นสารอาหารประเภทหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายวิตามิน โดยทำหน้าที่เป็น Coenzyme ในขบวนการเผาผลาญน้ำตาลและสารอาหารอื่นๆ ให้เป็นพลังงานโดยปกติร่างกายเราจะพบว่ามีกรดอัลฟาไลโปอิกอยู่แล้วในปริมาณคงที่ ซึ่งในบางสภาวะอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แหล่งอาหารธรรมชาติที่พบว่ามีกรดอัลฟาไลโปอิกในปริมาณสูงๆได้แก่ เนื้อแดง ยีสต์ เครื่องใน เช่น หัวใจ ตับ เป็นต้น และพบปริมาณน้อยในผักผลไม้บางชนิด เช่น มันฝรั่ง แครอท ผักโขม จากการวิจัยทางการแพทย์พบว่า กรดอัลฟาไลโปอิก เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง ช่วยปกป้องเซลล์เนื้อเยื่อของร่างกาย จากการเผาผลาญน้ำตาลเป็นพลังงาน จึงช่วยให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเป็นไปได้ด้วยดี
สังกะสี( Zinc )สังกะสีมีความสำคัญต่อการสร้างโปรตีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างเส้นใยคอลาเจนและยังแกี่ยวกับการรักษาระดับวิตามินเอ และการใช้วิตามินเอในร่างกายด้วย วิตามินเอและสังกะสีจะทำหน้าที่ร่วมกันในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ผิว อีกทั้งยังอาจช่วยในการรักษาสิว และสมานแผล นอกจากนี้สังกะสียังเป็นองค์ประกอบของเอนไซม์ Superoxide Dismutase: SOD ซึ่งเป็นระบบการต้านอนุมูลอิสระระบบหนึ่งในผิวหนัง ทั้งนี้ร่างกายจำเป็นต้องได้รับสังกะสีอย่างเพียงพอ เพื่อให้เอนไซม์ดังกล่าวสามารถทำงานได้อย่างปกติ
ซิลิเนียม( Selenium )


ลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ทำงานเสริมกับวิตามินซี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแอล-กลูตาไธโอน( L-Giutathione ) ป้องกันการเสื่อมของตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายใช้น้ำตาลได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกาย นอกจากนี้ซิลิเนียมยังเป็นสารต้านออกซิแดนซ์ตามธรรมชาติ เพื่อรักษาเนื้อเยื่อต่างๆให้มีความยืดหยุ่นและช่วยให้หัวใจทำหน้าที่ได้ดีขึ้น ช่วยในการผลิตสาร prostaglandin เพื่อป้องกันไม่ให้ความดันเลือดสูงและเป็นโรคหัวใจ ซิลิเนียมยังสำคัญในการช่วยไม่ให้เป็นหมัน โดยช่วยให้เชื้ออสุจิมีความแข็งแรง ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อการเป็นโรค อาจป้องกันการแก่ก่อนวัย โดยไปยับยั้งการสร้างอนุมูลอิสระและยังช่วยป้องกันร่างกายจากรังสี แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของซิลิเนียมคือ อาหารทะเล ตับ และข้าว
แมงกานีส อะมิโน แอซิด คีเลต( Manganese Amino Acid Chelated )
เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการพัฒนากระดูกอและเนื้อเยื่อต่างๆ ให้เป็นปกติ การทำให้ตับอ่อนทำงานได้อย่างปกติ จึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นให้ร่างกายใช้พลังงานอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง สามารถออกกำลังกายหรือทำงานได้นานกว่าเดิมโดยไม่อ่อนเพลีย แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของแมงกานีส คือ ข้าวต่างๆ ผลไม้เปลือกแข็งและผลไม้


คอปเปอร์ อะมิโน แอซิด คีเลต( Copper Amino Chelated)


คอปเปอร์ หรือทองแดง ช่วยเผาผลาญและยังจำเป็นเพื่อให้เหล็กดูดซึม และนำไปใช้ประโยชน์ในการสร้างฮีโมโกบิล คอปเปอร์ช่วยในการผลิตกรดนิวคลีอิค คือ อาร์ เอ็น เอ คอปเปอร์จำเป็นสำหรับการเผาผลาญโปรตีน และการสร้างสีของผิวและสีผม เมื่อคอปเปอร์ร่วมกับวิตามินซี จะช่วยในการสร้างอิลาสติน คอปเปอร์มีอยู่ในระบบเอ็นไซม์ต่างๆที่สำคัญในระบบโครงสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และการผลิตฟอสโฟไลปิค แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของทองแดงคือ หอยนางรม ผลไม้เปลือกแข็ง เมล็ดพืช และถั่ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่...
ร้านสะดวกซื้อพอลลีน่า Paulena Shopping Plaza ขอขอบพระคุณลูกค้าที่ให้การอุดหนุนร้านของเราด้วยดีเสมอมา!


ร้านสะดวกซื้อพอลลีน่า

(Paulena Online) 


บริษัทพอลลีนาเน็ทเวิร์ค 2553 
อาคาร ซี5-ซี6 ถนนลาดพร้าว แขวง/เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center : 083-0201780
E-mail : 
paulenadirect2u@gmail.com








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น